SF-ร้ายนัก...มารักกันดูไหม-[Special Ep]



SF-ร้ายนัก...มารักกันดูไหม

Special Ep Merry X’mas


“ป๊าจะอะไรกับผมนักหนา” ผมบ่นให้พ่อบังเกิดเกล้า ที่พักหลังมานี้เริ่มบ่นผมเป็นคนแก่ น่ารำคาญ

“เมื่อไหร่แกจะเลิกกับมัน” ผมฟังประโยคนี้มารอบที่ร้อยได้แล้วมั้ง?? ถ้าเลิก ไอ้สิงเอาผมตายแน่ๆ

“อย่าเยอะป๊า เราคุยเรื่องนี้กันแล้ว ตกลงกันแล้ว” ผมบอกออกไป


“แล้วไง เลิกกับมันเถอะ เดี๋ยวป๊าหาเมียให้เอาให้ดีกว่าลูกไอ้เหนือ สิบเท่า พันเท่าเลย”

“พ่อกำลังจะหาเหามาใส่หัวผมรู้หรือเปล่า” ผมสบตากับผู้เป็นพ่อ


“แล้วฉันต้องกลัวมันไหม” น้ำเสียงหนักแน่น เต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่ป๊าเชื่อผมป๊าควรกลัวคนอย่างมัน

“ถ้ามันมาหักคอป๊า ผมไม่ช่วยนะ”

“ไอ้ลูกทรพี เดี๋ยวนี้แกเข้าข้างมันหรอ”

“ป๊า”

“ไม่ต้องมาเรียก ไปไหนก็ไป”

“งั้นไปแล้ว”

“แกจะไปไหน” โอ้ยป๊า อะไรของป๊า เข้าสู่วัยทองหรือไง อารมณ์ถึงได้แปรปรวน

“จะไปหาไอ้สิง ผมนัดมันไว้ สายแล้วเนี้ยไม่อยากให้มันรอ”

พ่อผมตวัดสายตาเกรี้ยวกราดมาสบมอง แล้วไง ใครกลัว

“ไปแล้วนะป๊า ผัวผมรออยู่”


ผมยักคิ้วก่อนจะเดินออกมา เสียงเยินยอไล่มาตามหลังของผม แต่ผมไม่ได้สนใจ เพราะผมสายแล้ว ไปช้าได้ถูกไอ้สิงหักคอแน่ๆ

วันนี้วันฉลองครบรอบ 8 ปีที่เราคบกัน

ไปช้าไอ้ห่านั้นจะหาเรื่องงอนผมอีก ไม่อยากเป็นฝ่ายโดนงอนหรอก เพราะงอนแล้วเสือกง้อยากซะด้วย

“มาช้าขนาดนี้ มึงไม่มาชาติหน้าเลยละ” มาถึงก็ได้คำสรรเสริญเลย ดีจริงๆโว้ย

“ก็งานพึ่งเสร็จ” มันพยักหน้า ก่อนหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ สายตานิ่งเรียบ ไม่แสดงออกอะไร ผมชินแล้ว มันก็เป็นของมันแบบนี้ หาความอ่อนโยนไม่เคยมี

แต่เดี๋ยวก่อนนะ ผมรีบถลาเข้าไปนั่งข้างมัน จับหน้ามันเอียงไป เผยให้เห็นรอยซ้ำที่ลำคอ

“ใคร” สั้นๆง่ายๆได้ใจความ

“นางแบบชื่ออะไรก็ไม่รู้ อยู่ก็พุ่งมา” มึงมาเป็นกูไม่ละ

“ไอ้ห่า”

“กูผิดหรอ”

“ใช่สิ ถ้าคนอื่นทำกูบ้างมึงจะโกรธไม่”

“ไม่” ให้ตายเถอะ ต่อมหึงหวงมึงไม่ทำงานหรือไง

“ใช่สิ กูมันเก่าแล้วนิ มึงเลยไม่รักไม่แคร์ความรู้สึกกู” นางเอกไปอีกกู จะถูกมันถีบไหมว่ะ

“เสือกดราม่า กูพูดเล่น” แล้วไปนะมึง

“กูไม่ขำไอ้สัส” ผมโคตรโมโห กดจูบที่ลำคอมันซ้ำๆ ก่อนจะกัดด้วยลงย้ำๆ เพื่อคลายอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมา พอเห็นรอยที่ตัวเองเป็นคนทำ ผมก็อารมณ์ดีขึ้น ผมว่าผมโรคจิตนิดๆ

“ทำไมมึงทำตัวเองให้บาดเจ็บ” ผมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ คิดเรื่องนี้ก็หงุดหงิด
“นิดหน่อย ไม่เป็นไรมาก”

“กูไม่ชอบให้ใครทำมึงเป็นรอย” เว้นผมที่ทำได้ แค่รอยขีดข่วนก็ไม่ชอบ มันเป็นของผม ร่างกายมันก็ด้วย ผมทำมันเจ็บได้คนเดียว ผมเท่านั้นที่มีสิทธิ์

ผมซบที่อกมัน มันพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าผม หมดกันอารมณ์โรแมนติก
“มึงจะไม่กอดกูหน่อยเหรอ”

“งอแงสัส” ทำไมละ มันเป็นสิทธิ์ของผม มันหยุดสูบ แล้วหันมาสนใจผม

“มึงไม่คิดถึงกูหรอ ไม่เจอตั้งห้าวัน”

“ไม่คิดแล้วกูจะอยู่ตรงนี้ไหม” ก็จริงของมัน

“มึงจะไม่มีอะไรให้กูหน่อยหรอ นี้วันครบรอบของเรานะ”

“ไม่มี มีแต่ชีวิตกู มึงจะเอาไหม”

“เอา” ผมตอบอย่างไม่ต้องคิด ก่อนจะพลิกตัวขึ้นนั่งบนตักมัน และกดมันให้จมไปกับพนักของโซฟา

“ชีวิตกูแลกกับชีวิตมึง” แววตาดุดันจ้องมองผม สื่อความหมายว่ามันหมายความอย่างที่พูด

“ทั้งตัวและหัวใจ กูเป็นของมึงสิง เป็นของมึงคนเดียว”

“ง่าย”

“แค่กับมึง”

“ร่าน”

“แค่กับมึง”

“หึ” มันยิ้มออกมา รอยยิ้มที่ผมรู้ดีว่ามันมีความสุข ผมเองก็เช่นกัน ก่อนจะโน้มหน้าเอาหน้าผากชนกับมัน

“เอากูสิสิง” ผมเอ่ยออกมาด้วยความต้องการ กัดริมฝีปากยั่วยวนมัน ผมรู้มันทนไม่ไก้แน่นอน หื่นๆอย่างมันมีหรือจะทนไหว

“ตามคำขอครับเมีย”

ริมฝีปากทาบทับบดจูบด้วยความดุดัน ร้อนแรงเกินจะต้านทาน รสจูบแสนป่าเถื่อนที่ผมคุ้นเคย ตอบรับจูบมันอย่างไม่ยอมแพ้

ไม่เจอห้าวันคิดถึงจนจะบ้าตายอยู่แล้ว

ริมฝีปากถูกบดจูบย้ำๆซ้ำๆ ก่อนจะถูกกัดจนได้กลิ่นเลือดจางๆ ผมเกี่ยวกระหรัดลิ้นตามจังหวะจูบของมันอย่างคุ้นเคย มือสอดประสานกับกลุ่มเส้นผมที่ท้ายทอย ก่อนจะขยำมันเพื่อระบายอารมณ์ที่มีอยู่

“อื้ออ”

“คิดถึง” เสียงพร่าเอ่ยกระซิบที่ริมติ่งหู ก่อนที่ฟันคมๆของอีกฝ่ายจะกัดลงอย่างเต็มแรง ก่อนที่มันจะระดมจูบที่ซอกคอของผม ผมลูบไล้สัมผัสร่างกายของผม ค่อยๆปลดอาภรณ์ออก

ก่อนจะเริ่มบรรเลงบทรักที่ร้อนแรงของเราสองคน ฉลองครบรอบแปดปีกันบนโซฟา โคตรเป็นอะไรที่โรแมนติก สำหรับผมกับมันอ่ะนะ

เอากันเสร็จ ผมก็นอนอยู่บนตัวมัน ด้วยถ่อนบนที่เปลือยเปล่า ลูบกล้ามเนื้อที่หน้าอกของมัน อย่างจงใจ ริมฝีปากของมันกดจูบที่ขมับของผมย้ำสองสามครั้ง

ก่อนจะโอบกอดผมเอาไว้ในอ้อมกอดของมัน

“อีกสองเดือนจะมีชุมชนหัวหน้าแก๊งค์ต่าง เตรียมตัวให้ดีนะคริส”

“มึงก็ด้วย ห้ามเจ็บตัว”

“จิ้งจอกขาว มึงอย่าได้ประมาท ถึงจะเป็นแกงค์ใหม่ แต่ก็ดูถูกมันไม่ได้”

“กิเลนไฟ กับหมาป่า ก็ดูจะสนับสนุนมันอยู่เบื้องหลัง” ผมเอ่ยออกมา

“นั้นแหละ ไว้ใจใครไม่ได้”

“รวมทั้งมึงด้วยหรือเปล่า” ผมถามมัน

“มึงคิดว่าได้ไหมละ” มันถามกลับมาด้วยน้ำเสียงกวนๆ อารมณ์ดีจังนะ

“ไม่ได้”

“หึๆ”

“ค้างกับกูนะ พรุ่งนี้เช้าค่อยไป” คำขอเชิงคำวอนของมันทำผมชะงัก มือที่โอบกอดผมอยู่ของมันเริ่มอยู่ไม่นิ่ง

“อาบน้ำให้กูสิ” ผมบอกออกมันออกไป ไม่มีแรงจะลุกแล้ว ถูกมันฟัด ถูกมันเอาจนหมดแรง

“ปีนี้ไม่มีของขวัญ มึงโกรธกูหรือเปล่า” มันถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ไม่”

“มึงคือของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตกู” ตายห่า เพราะคำพูดห่ามๆของมัน ที่ไม่ได้ดูนุ่มนวลน่าฟัง แต่มันพูดออกมาจากใจ ผมหน้าแดงไปหมดแล้ว
ไอ้บ้าสิง ทำกูเขิน

แค่ได้ใช่เวลาอยู่กับมัน ก็ทำให้ผมมีความสุข ลืมเรื่องต่างๆมากมาย เหมือนได้พักผ่อน แค่นี้ก็มากพอแล้วสำหรับวันครบรอบแปดปีที่ผมรักมัน และมันก็รักผม

ถึงไม่ใช่คนรักที่อ่อนหวาน แต่ผมมั่นใจว่ามันไม่มีทางหักหลังหรือนอกใจผมเด็กขาด
ถึงจะสาดลูกกระสุนใส่กัน ยามอยู่หน้าคนอื่น แต่ลับหลังเราคือคู่รัก เราคือคนรักที่มีความรู้สึกที่ดีให้แก่กัน

เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะบทรักในยามเช้าของมัน ทำเอาไอ้สิงสบถคำหยาบออกมาอย่างหัวเสีย

“ใครว่ะ ขัดจังหวะซิบหาย”

เสียงเคาะดังขึ้นรัวๆ

“จะเคาะหาลูกปืนหรือไงว่ะ” ผมเริ่มบ่น คนกำลังเข้าด้าย เข้าเข็ม เสียอารมณ์ซิบหาย
“ป๊า/พ่อ” มาทำไมเนี้ย

“ถอยออกไป แล้วไปแต่งตัวให้เรียบร้อย”

“เรามีเรื่องต้องคุยกัน” เสียงพ่อไอ้สิงเอ่ยออกมาด้วยความเคร่งเครียด มีเรื่องอะไรอีกเนี้ย ผมชักจะรำคายตาแก่สองคนนี้เต็มทนแล้วนะ

“มีอะไร เข้าเรื่องให้ไว ผมอารมณ์ไม่ดี” ไอ้สิงพูดด้วยความเกรี้ยวกราด

“หุบปากแล้วฟัง”

“ทั้งสองคน” ทีแบบนี้แล้วมาสามัคคีกันนะ น่าหมั่นไส้จริงๆ

“หลังจากงานชุมนุม พวกแกสองคนต้องกบดาน”

“ทำไม” สิงถามออกไป ก่อนจะสบตาตาแก่สองคนนั้นด้วยสายตาที่ไม่ไว้ใจ จะให้ไว้ใจได้ยังไง ทั้งคู่ยังหาคู่หมั้นมาให้ผมกับสิงเรื่อยๆ ถามว่าเมื่อไหร่เราจะเลิกกันทุกวี่วัน

“ทุกคนในกลุ่มมาเฟียเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของ สิงห์ดำ กับเสือขาว”
“ใคร”

“แกไม่ต้องอยากรู้คริส” พูดแบบนี้ก็ได้หรอป๊า ตาแก่สองคนต้องมีแผนอะไรแน่ๆ ผมนั่งฟังข้อตกลงของผมกับสิงหลังการชุมนุม แล้วอยากจะถล่มแก๊งค์ที่มันช่างสงสัยให้มันราบเป็นหน้ากอง

ผมอุส่าต์ตั้งตารอ ผมกับสิงจะไปฉลองปีใหม่ที่เชียงใหม่ กว่าจะเคลียร์คิวงานได้ไม่ใช่ว่าจะทำกันง่าย ผมโคตรเซ็ง ต้องเป็นแผนของตาแก่สองคนนี้แน่ๆ

“ไม่ได้แกล้งพวกผมใช่ไหมป๊า ใช่ไหมคุณเหนือ” ผมจ้องจะจับผิด

“แกเห็นฉันเป็นคนยังไง”

“ก็ป๊า อยากให้ผมเลิกกับมัน”

“ก็จริง”

“คุณครุฑ อย่าหาเมียให้มัน ผมเตือนเป็นครั้งสุดท้าย” มันต้องแบบนี้ไอ้สิง สายตามันเอาจริง จ้องกันฟาดฟันกับพ่อผม จนพ่อผมต้องยอมแพ้

“ก็แค่แหย่เล่นขำๆ”

“ผมไม่ขำ”

“พวกแกนี้ยังไง ยอมให้คบกันยังจะเรื่องมาก แค่หาเรื่องสนุกๆทำเวลาว่าง” คำพูดคุณเหนือทำผมจุก อึ้งไปเลย หาเรื่องทำสนุกๆเวลาว่าง ว่างมากสินะ เดี๋ยวผมจะป่วนให้เวลาว่างไม่มีเลย ชอบนักนะจับคู่ให้ไอ้สิงเนี้ย

“บอกลูกมึงเก็บอาการหน่อยไอ้ครุฑ”

“หึ บอกลูกมึงด้วย” ทีแบบนี้แล้ว เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

ผมมองหน้าสบตากับไอ้สิง หลังจากที่ตาแก่เจ้าเล่ห์สองคนนั้นออกไป ก่อนจะคุยกับมันเล็กน้อย ก่อนจะออกจากห้องมา เพราะผมมีงานต้องทำ

ไอ้สิงเองก็เหมือนกัน ช่วงนี้ผมกับมันต้องระวังตัวเป็นพิเศษ

จนถึงวันชุมนุมที่เราต่างก็รอคอย ไม่รู้คนของพ่อจะส่งผมกลบดานที่ไหน ตั้งสองอาทิตย์ แถมมีข้อแม้ต่างๆมากมาย อะไรเยอะแยะก็ไม่รู้ แผนตาแก่สองคนคิดว่าผมรู้ไม่ทันหรือไง

ไอ้สิงก็เสือกตกปากรับคำ อย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ มันเจ็บจี๊ดก็ตรงนี้ มันหน้านิ่งไม่ตอบกลัยอะไร ยอมเล่นไปตามเกมส์ของตาแก่เจ้าเล่ห์สองคนนั้น

หัวหน้ากลุ่มมาเฟียต่างมารวมตัวกัน แต่ละฝ่ายต่างก็ขนคนมาให้พรึบ จะมารบกันหรือไง

แก๊งค์ สิงห์ดำ เสือขาว กิเลนไฟ หมาป่า หงส์ดำ และจิ้งจอกขาว ต่างก็พูดคุย ทำข้อตกลง นั่งลงในโต๊ะทรงกลม แต่ใต้โต๊ะต้องชักปืนใส่กัน ผมยืนอยู่ตรงข้ามไอ้สิง แน่นอนผมกับมันอยู่คนละฝั่ง

สิงห์ดำ หงส์ดำ หมาป่า อยู่ฝั่งเดียวกัน ฝั่งผมมี เสือขาว กิเลนไฟ จิ้งจอกขาว กำลังพูดคุยตกลงเรื่องของผลประโยชน์เป็นหลัก ใครจะจับมือกับใครมันชัดอยู่แล้ว

ผมสบตากับไอ้สิง มันนิ่งเรียบส่งสายตามองผ่านไปเหมือนผมเป็นอากาศ ไอ้บ้านี้มันน่าชักปืนมายิงสักนัดสองนัดไหมละ

ไอ้เชี่ยสิง มึงช่วยถนอมกูบ้างได้ไหม

กูก็ถนอมแล้วนี้ไง

ถนอมบ้าอะไร นี้เรียกเอามือทำหรอ?”

ตีนมั้ง?” กวนตีน

สัส ยิงมาได้ ดีนะกูไม่ตายห่าผมด่ามัน เห็นว่าเป็นผมมันยังจงใจยิง

ถากๆเอง

ถากพ่องมึงสิก็ถากๆนั้นแหละ แล้วไง มันไม่ควรยิงผม

หัดพูดจากับผัวดีๆหน่อยเดี๋ยวกูตบปากแตก โหดอีกแล้ว

ไม่มีอะไรหรอกครับแค่ฉากของตาแก่เจ้าเล่ห์ป๊าผมกับพ่อไอ้สิง หลังการชุมนุมเราจะถล่มกันเอง ให้มันได้แบบนี้ เล่นกันเอง ตายกันเอง โคตรจะลงทุน

จากนั้นก็จับมือกับแก๊งค์ที่สนับสนุน ได้ทั้งอาวุธ ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งฐานอำนาจ เจ้าเล่ห์กว่านี้มีอีกไหม
ไอ้บ้าสิง ไอ้ห่านี้ก็เสือกยิงผมจริงๆ จิตใจมันทำด้วยอะไร แข็งกระด้างยิ่งกว่าหิน

“มึงตบ กูจูบ” ผมสวนกลับ

“เก็บปากไว้ร้องเถอะคริส”

“หึ มึงไม่อยากร้องบ้างหรอ” ผมถามมันกลับ ด้วยน้ำเสียงยียวนเต็มขั้น กวนตีนมันก็สนุกดี

“หึ อยากโดนตีน”

“ทำนองนั้น” มันกดลงที่แผลผมแรงๆ ไอ้ห่า เล่นแรงจริงๆ

“มึงไม่อ่อนโยนเลย กูเจ็บ”

“เจ็บสิดี อย่าเถียงกู”

“ชอบข่มขู่ ไอ้บ้าอำนาจ”

“หึ เดี๋ยวได้เจ็บตัวจริงๆ” เอาอีกแล้ว ข่มขู่กันจริงๆ

“เสร็จแล้ว รีบไปขึ้นเครื่อง”

“ไปไหน” ผมถามด้วยความสงสัย

“กลบดาน”

“ตาแก่สองคนสั่งให้เราแยกกัน”

“จำเป็นต้องทำตามไหม” มันหันมาส่งสายตา อันชั่วร้ายกว่าตาแก่สองคนรวมกันให้ผม ผมยกยิ้มมุมปาก อยากจะกระโดดดูดปากมันสักทีสองที

“รักมึงก็เพราะแบบนี้” ผมยิ้มให้มัน ผมไม่พูดอะไรเพียงแค่ยักคิ้วมาให้ผมแทน


ผมหลับไม่รู้เรื่องตั้งแต่ขึ้นเครื่อง เป็นเพราะไอ้สิงแน่ๆ ในน้ำมันต้องมีอะไรผสมอยู่ ผมถึงได้หลับเป็นตาย แบบไม่รู้เรื่องรู้ราวขนาดนี้

ตื่นขึ้นมาบนที่นอน ที่ไหนสักแห่ง ที่เรามากลบดาน

ผมมองหาคนที่มาด้วยกัน เสียงน้ำในห้องน้ำ เป็นคำตอบได้เป็นอย่างดี ผมลุกขึ้นสำรวจห้องที่ผมอยู่ ก่อนจะยิ้มออกมา เพราะผมคุ้นเคยกับมันดี

ไอ้สิง ไอ้คนร้ายๆ ที่ผมรักมันสุดหัวใจ หนีไปไหนไม่ได้ก็เพราะแบบนี้
ผมรู้ดีว่าที่นี้คือที่ไหน

ผมมองวิว อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความทรงจำดีๆระหว่างเรา ความอ่อนโยนของมันที่ทำให้หัวใจของผมเต้นระส่ำ

“มึงตื่นแล้ว” มันเดินออกจากห้องน้ำ ด้วยผ้าเช็ดตัวปิดท่อนล่างเพียงอย่างเดียว ให้ตายเถอะ เซ็กซี่ชะมัด

“เช็ดน้ำลายมึงด้วย” ไอ้บ้าสิง ดีนะที่ในห้องมันมีฮีทเตอร์ ไม่งั้นมึงแข็งตาย นี้มันช่วงปลายปี อากาศที่ลอนดอนติดลบแน่ๆ

ผมไม่สนใจความปากหมาของมัน ผมยิ้มให้มันเหมือนที่เคย รอยยิ้มที่มันห่างหายไปจากเรา ตั้งแต่เราเจอกันที่งานชุมนุมแก๊งค์


“คริส” มันเรียกผมด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล รอยยิ้มถูกส่งให้ผม ผมเดินเข้าไปกอดมันด้วยความคิดถึง คิดถึงตัวตนที่บางครั้งเราก็ลืมมันไป

เพราะสังคมที่ผมกับอยู่ ต้องทำให้เราปรับตัวมีแต่ความแข็งกระด้าง หลงลืมความนุ่มนวล ความอ่อนโยนที่เคยมีให้กัน ในฐานะคู่รักธรรมดาๆคู่หนึ่ง

“ไปอาบน้ำ กูจะพาออกไปหาอะไรกิน” ผมพยักหน้าก่อนจะทำตามอย่างว่าง่าย

เราออกมาเดินตามถนนที่เราคุ้นเคย ผมไม่ได้ที่นานแล้ว ตั้งแต่กลับไทยก็ไม่ได้มาที่นี้อีกเลย เพราะหน้าที่และความรับผิดชอบที่ผมมี

เราเดินกุมมือกัน ช่วงนี้เทศกาลคริสต์มาส ไฟและต้นคริสต์มาสถูกตกแต่งตามร้านต่างๆ อย่างสวยงาม ผมมองไปรอบๆ คิดถึงบรรยากาศที่นี้ที่สุด
ความรักของเราเริ่มต้นที่นี้

ผมยิ้มอย่างมีความสุข เราเดินเล่น ถ่ายรูปเหมือนอย่างที่สิงชอบ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะถูกเติมเต็มความรู้สึกที่ห่างหายไปนาน

แววตาอ่อนโยนที่ทำให้ผมตกหลุมรักมัน คนที่รักที่สุดแสนจะโรแมนติก กำลังจะกลับมา

“มีเวลาสองอาทิตย์ แวะไปปารีสกับโรมกันนะ” สิงเอ่ยชวนผม

“ได้สิ รู้ใจตลอด”

“ดีจังที่มึงยิ้มได้”

“ขอบคุณมึงมากนะ” ผมยิ้มกว้างอย่างมีความสุข เราเดินเล่นกันจนดึก จากนั้นก็กลับไปที่คอนโดที่ผมกับมันเคยอยู่

ผมยืนมองวิวผ่านกระจกใส่ มองเห็นแสงไปยามค่ำคืน เป็นคริสต์มาสที่ดีที่สุดของผมอีกปีหนึ่ง ได้อยู่กับสิงตรงนี้ ตรงที่ความรักของเราเริ่มต้น อาจจะไม่ใช่เดือนนี้ ไม่ใช่วันครบรอบ แต่ผมกลับมีความสุขที่ได้กลับมาในที่ที่มีแต่ความทรงจำดีๆ

ผมถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นไม่เคยเปลี่ยน มันเป็นแบบนี้มาตลอด ตั้งแต่เรารักกัน ความรักที่มั่นคงจะจริงใจ มันทำให้เราผ่านทุกเรื่องมาด้วยกัน
ผมอยากเก็บความอ่อนโยนของมันเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะกลับไทยคงหาได้ยาก

“คริส”

“หื้อ”

“สิงรักคริส”

“รักสิงเหมือนกัน”

“ไม่มีของขวัญให้หรอกนะ” ไอ้บ้าผมไม่ได้ต้องการของขวัญ ไม่เลยสักนิด

“แค่สิงอยู่ตรงนี้ก็พอ ขอบคุณนะที่พามาฉลองคริสต์มาสที่นี้”


ผมหันกลับมา สบตากับมัน ก่อนจะค่อยจูบตอบมัน จูบที่นุ่มนวล ละมุนละไมเต็มไปด้วยความรู้สึก อ้อยอิ่ง บดจูบริมฝีปากล่างของผมอย่างใจเย็น ก่อนจะค่อยๆรุกรานเข้ามาบดจูบอย่างเชื่องช้า ก่อนจังหวะจะค่อยๆเร่งเร้าขึ้น

“อื้ออ” ผมครางในลำคอ เมื่อพบว่าหลังผมกำลังสัมผัสกับที่นอน

บทรักที่แสนอ่อนหวาน ลึกซึ้งในความสัมพันธ์ ของผมกับมันเริ่มขึ้น ทบทวนความรักที่เราเริ่มต้นกันที่นี้ ผมตอบรักด้วยความสุขสม


“กูรักมึงนะคริส แต่แค่นี้มันไม่พอ” สายตาที่อ่อนโยนเริ่มจางหายไป ช้าไปเสียแล้ว ผมพลาดอีกแล้ว ไอ้สิง ไอ้คนชั่ว ไอ้เหี้ยย

ข้อมือถูกพันธนาการ ขึงตึงทั้งสองข้าง สายตาแข็งกร้าวจ้องมองร่างผมด้วยสายตาที่ผมรู้ดีว่ามันต้องการอะไร แปลกที่หัวใจผมสั่นไหวกว่าที่เคย ไม่อยากปฏิเสธว่า บทรักที่นุ่มนวล ชวนมันไม่เร่าร้อนถึงใจ ผมกัดริมฝีปาก ส่งสายตาเย้ายวน

เอาให้มันขาดใจตายตรงนี้ เพียงแค่จ้องร่างกายเปลือยเปล่าผมที่อยู่บนผ้าปูที่นอนสีดำ ที่ตัดกับสีผิวของผมชัดเจน

“คริส” มันครางชื่อผม เพียงแค่สายตาเราสบจ้องกัน ผมมองร่างกายเปลือยเปล่าของมัน ด้วยอารมณ์วาบหวาม จ้องมองตรงนั้น ก่อนจะกัดเลียริมฝีปาก สื่อความต้องการอย่างชัดเจน
ไม่นานเสียงจูบก็ดังระงมทั่วห้อง ผสมกับเสียงครวญครางที่ปลดปล่อยความกระสันที่ได้จับ จากบทรักที่ร้อนแรง ถึงใจ เติมเต็มความรู้สึกให้กันและกัน

“แรง อีก อ๊ะ อ๊า สิง”

“แรงกว่านี้”

“อื้มมมม สิง อ๊ะ อ๊า สิง”

“อ๊า คริส”

“อ๊าห์ อ๊ะ สิง ระแรงอีก อื้ออ เร็วอีก” ความต้องการมันทำให้ไม่กระดากปากที่จะร้องขอจากอีกฝ่าย ซึ่งมันก็ตอบสนองคำขอของผมอย่างถึงใจ

กระแทกมาเต็มแรง ไม่มียัง ตามอารมณ์ที่เรามีให้กัน

ครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นการฉลองคริสต์มาส ด้วยการเอากันข้ามคืน ช่างดีจริงๆ


ผมลืมตาตื่นขึ้นมา เมื่อคืนกว่าจะได้นอน ผมสลบคาอก ผมจำได้เลย

“ตื่นแล้ว” ยังมีหน้ามาถาม ไม่มีตาหรือไง

“แหกตาดูสิ หลับอยู่มั้ง”

“อยากโดนอีกสินะ”

“กูขอไปเที่ยวบ้างได้ไหม”

“ได้ ถ้ามึงลุกไหว”

“ไอ้สิง”

“ไอ้เหี้ยสิง”

“มาพากูไปอาบน้ำเลยสัส” ผมตะโกนบอกมัน

“แล้วมาทำเป็นปากดี”

“เพราะใครละ” ผมเถียงมัน

จุ๊บ

ผมอึ้งอยู่ ถูกมันอุ้ม ถูกมันจุ๊บ ด้วยความอ่อนโยน ผมเริ่มไม่ชิน จะเป็นไบโพล่า

“กูเตรียมน้ำอุ่นเอาไว้ให้แล้ว” ไอ้ห่ามาอารมณ์ไหนของมัน ผมว่าผมโรคจิตแล้วนะ มันจิตกว่าผมอีก
แต่เพราะมันเป็นแบบนี้ผมถึงรักมัน

ไม่รู้ป่านนี้ตาแก่สองคนแห่ง สิงห์ดำ กับเสือขาวจะว่าอาละวาดแค่ไหน ที่รู้ว่าผมกับมัน มากลบดานกันที่นี้

ร้ายไม่เท่ามัน ยังจะหาเรื่องให้ตัวเอง กับไปโดนดีแน่ๆ ทั้งป๊าทั้งคุณเหนือ ไอ้สิงมันลูบคมได้ขนาดนี้
ผมแช่น้ำอย่างสบายใจและมีความสุข

 --------END----------

Merry X'mas ย้อนหลังนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุข

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

CUT#กระทิงขวิดหมอ (ตอนที่ 20)

SF-ถ้าหนูชอบพี่ แล้วพี่จะรักหนูไหม